แผนยุทธศาสตร์วิจัย 2568

44 I แผนยุทธศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยทักษิณ 5 ปี (พ.ศ. 2568 – 2572) บริการสุขภาพ การวิจัยเพื่อพัฒนาการดูแลสุขภาพที่บ้าน การติดตามผลการรักษา และการให้คำ�ปรึกษาทาง ไกล การสร้างความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาล สถานีอนามัย และคลินิกในชุมชน เพื่อให้บริการที่ครอบคลุม และทั่วถึง การใช้ข้อมูลด้านสุขภาพเพื่อจัดทำ� Patient Journey Mapping (แผนที่เส้นทางการรักษาของ ผู้ป่วย) และ Patient Care Mapping (แผนที่การดูแลผู้ป่วย) เพื่อพัฒนาระบบการจัดการผู้ป่วยสูงอายุ การ เพิ่มทุนทางสังคมเพื่อสร้างธนาคารแรงงานสำ�หรับดูแลผู้สูงวัย การพัฒนา health logistics เช่น พัฒนาระบบ จ่ายยาและการนำ�ส่งเพื่อไม่ให้เกิดการจ่ายยาที่มากเกินไปจนกลายเป็นขยะ พัฒนาระบบเชค stock ของ อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีอยู่ในสถานพยาบาลต่าง ๆ ระบบบริการสุขภาพถ้วนหน้าสำ�หรับกลุ่ม คนด้อยโอกาสและกลุ่มคนเปราะบางเพื่อให้เข้าถึงระบบโลจิสติกส์รับส่งผู้ป่วยจากบ้านไปยังสถานพยาบาล และเชื่อมโยงไปสู่การเกิดเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การใช้กลไกของ อสม. ใน การสนับสนุนระบบ home ward นวัตกรรมระบบสุขภาพแบบใหม่ เช่น การพัฒนา application เพื่อการ บริการรับส่งผู้ป่วย การสร้างเครือข่ายเพื่อพัฒนาข้อบัญญัติหรือเทศบัญญัติในเชิงนโยบายขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นด้านระบบบริการสุขภาพถ้วนหน้า 3) การป้องกันและเสริมสร้างสุขภาพ มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเกี่ยวกับการป้องกันและเสริมสร้างสุขภาพ รวมถึงการลดปัจจัยเสี่ยงต่อโรค และภัยสุขภาพ สุขภาพผู้สูงวัยและสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด One Health การศึกษาผลกระทบของมลพิษ ทางอากาศ น้ำ� และอาหารต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ การวิจัยเกี่ยวกับการแพร่กระจายของโรคจากสัตว์สู่คนและ มาตรการป้องกัน โดยเป็นการพัฒนาและส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องผ่านงานวิจัยสหสาขา รวมถึง ชีววิทยาศาสตร์ การสาธารณสุข วิศวกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ ภูมิปัญญาเดิมของไทย การแพทย์แผนไทย (การแพทย์พื้นบ้าน) การสร้างความรอบรู้ ความเท่าทันด้านสุขภาพของผู้สูงอายุ รวมทั้ง ทักษะและแรงจูงใจในการลดพฤติกรรมเสี่ยงและสร้างเสริมสุขภาพอย่างเป็นองค์รวม การสร้างสุขภาวะใน ผู้สูงอายุ เพื่อลดการพึ่งพิงรัฐและลดภาระทางสังคม เช่น การลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพและให้ผู้สูงอายุคำ�นึง ถึงผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงและสภาวะแวดล้อมทางสังคมที่มีผลต่อสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต การส่งเสริมการเรียนรู้วิธีการบริโภคอย่างถูกหลักโภชนาการ และสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เป็นต้น การสร้างสภาพแวดล้อมและการจัดการทางสังคมที่เอื้อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่ดีและ มีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการผลิตและบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ การพัฒนาหลักสูตรสุขภาพแบบ องค์รวมที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การใช้สมุนไพร การฝึกโยคะ หรือการนวดแผนไทย เพื่อสร้างความรอบรู้ และการสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับผู้สูงอายุ 4) การเตรียมประชากรก่อนวัยสูงอายุเพื่อเข้าสู่สังคมสูงวัย มุ่งเน้นการส่งเสริมการออมและการเรียนรู้การบริหารจัดการด้านการเงิน เพื่อให้ประชากรก่อนวัยสูงอายุ มีความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมแรงงานผ่านการ Upskill และ Reskill

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3